Sunday, June 01, 2008 |
กฏแห่งกรรมสอนว่าทำดีแล้วจะได้ดี หลายคนจึงตั้งใจทำความดีเพื่อหวังผลดีที่จะตามมา แต่กฏแห่งกรรมไม่ได้สอนว่าคนที่ทำดีจะ "ได้ดี" เมื่อไร และคนหลายคนใจร้อน จึงมองว่าตนเองทำดีมานานแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นผลดีเกิดขึ้นกับตนเสียที ซ้ำร้ายบางครั้งชีวิตกลับแย่ลง แย่ลง จึงเสื่อมศรัทธาในกฏแห่งกรรม แม้ปากยังบอกว่าเชื่ออยู่ แต่ในใจลึกๆ นั้นมีความเคลือบแคลงสงสัย ส่งผลให้การกระทำไม่ตั้งอยู่บนความดีอีกต่อไป เมื่อมีทางใดที่จะลัดได้ก็ลัด คดได้ก็คด ยักยอกได้ก็ยักยอก ความละอายต่อบาปเริ่มจางหายไป และอีกไม่นานนักความเกรงกลัวต่อบาปก็ละลายหายไปด้วยเนื่องจากยังไม่เห็นผลร้ายจากการกระทำของตน ตรงกันข้ามกลับเห็นทรัพย์สินที่เพิ่มพูนขึ้น ผู้คนนับถือมากขึ้น มีหน้ามีตาในสังคมมากขึ้น บางคนถึงกับคิดว่าเมื่อทำเช่นนี้แล้วก็ยิ่งทำให้ตนเองมีกำลังทรัพย์ในการทำบุญมากยิ่งขึ้น สามารถเอาชื่อไปประดับตรงตึกนี้ได้ เจดีย์นี้ได้ เก้าอี้ตัวนี้ได้ สะพานนี้ได้ เมื่อทำบุญมากขึ้นเช่นนี้ก็คงหักลบชดเชยกับบาปกรรมในอดีตได้เอง คงทำให้ตนเองได้ดิบได้ดี และลูกหลานสุขสบายเนื่องจากกองมรดกและชื่อเสียงที่สร้างไว้
คนเลวที่เคยดีเช่นนี้จะได้รับการยอมรับจากสังคมหรือไม่? แน่นอนว่าผู้อื่นที่รู้ความจริงคงจะไม่ชื่นชมเขาแต่อย่างใด แต่หากว่าการกระทำของเขาแนบเนียนเสียจนไม่มีใครรู้ได้ว่าเขาเป็นคนคดโกง ก็คงจะมีแต่คนชื่นชมสรรเสริญ คนผู้นั้นแม้ไม่มีเกียรติในตนเอง แต่ก็คงได้รับเกียรติจากสังคมไม่น้อย อีกทั้งฐานะทางการเงินที่ดีพอก็คงทำให้สามารถ "แสดงน้ำใจ" กับผู้อื่นได้มาก ทั้งในแง่ความช่วยเหลือโดยส่วนตัว และการทำบุญทำทานเพื่อประดับบารมี
แต่ตัวของเขาเองจะมีความสุขที่แท้จริงได้หรือ? ในเมื่อเขาและบางคนในครอบครัวก็คงจะรู้แก่ใจดีว่าชื่อเสียงและเงินทองที่หามาได้นั้นมีที่มาอย่างไร สมองของเขาต้องมัวคิดแต่ว่าจะปิดบังเรื่องนั้นเรื่องนี้อย่างไร จะกลบหลักฐานให้สนิทได้อย่างไร จะสร้างเรื่องโกหกผู้คนว่าอย่างไร จะสร้างบุญคุณและแสดงน้ำใจกับใครบ้างเพื่อตนเองจะได้รับประโยชน์และความชื่นชมสูงสุด ในวาระสุดท้ายของชีวิตซึ่งเขาเอาอะไรติดตัวไปไม่ได้คงจะต้องย้อนคิดว่าตนเองเคยทำอะไรไว้บ้าง คงจะนึกเสียดายว่าชีวิตเขาคงจะมีความสุขกว่านี้ถ้าไม่ต้องมัวแต่คิดเรื่องพวกนี้ คงจะห่วงลูกหลานว่าจะผลาญสมบัติและชื่อเสียงของเขาได้รวดเร็วแค่ไหนและจะภูมิใจหรือไม่หากทราบว่าบรรพบุรุษของพวกเขาเป็นคนเช่นนี้
กฏแห่งกรรมไม่ได้มีช่องโหว่ กฏแห่งกรรมไม่ใช่เป็นเรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ แต่กฏแห่งกรรมนี่แหละคือธรรมชาติ และไม่มีใครหนีธรรมชาติได้พ้นเพราะต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ
คนเลวที่เคยดีเช่นนี้จะได้รับการยอมรับจากสังคมหรือไม่? แน่นอนว่าผู้อื่นที่รู้ความจริงคงจะไม่ชื่นชมเขาแต่อย่างใด แต่หากว่าการกระทำของเขาแนบเนียนเสียจนไม่มีใครรู้ได้ว่าเขาเป็นคนคดโกง ก็คงจะมีแต่คนชื่นชมสรรเสริญ คนผู้นั้นแม้ไม่มีเกียรติในตนเอง แต่ก็คงได้รับเกียรติจากสังคมไม่น้อย อีกทั้งฐานะทางการเงินที่ดีพอก็คงทำให้สามารถ "แสดงน้ำใจ" กับผู้อื่นได้มาก ทั้งในแง่ความช่วยเหลือโดยส่วนตัว และการทำบุญทำทานเพื่อประดับบารมี
แต่ตัวของเขาเองจะมีความสุขที่แท้จริงได้หรือ? ในเมื่อเขาและบางคนในครอบครัวก็คงจะรู้แก่ใจดีว่าชื่อเสียงและเงินทองที่หามาได้นั้นมีที่มาอย่างไร สมองของเขาต้องมัวคิดแต่ว่าจะปิดบังเรื่องนั้นเรื่องนี้อย่างไร จะกลบหลักฐานให้สนิทได้อย่างไร จะสร้างเรื่องโกหกผู้คนว่าอย่างไร จะสร้างบุญคุณและแสดงน้ำใจกับใครบ้างเพื่อตนเองจะได้รับประโยชน์และความชื่นชมสูงสุด ในวาระสุดท้ายของชีวิตซึ่งเขาเอาอะไรติดตัวไปไม่ได้คงจะต้องย้อนคิดว่าตนเองเคยทำอะไรไว้บ้าง คงจะนึกเสียดายว่าชีวิตเขาคงจะมีความสุขกว่านี้ถ้าไม่ต้องมัวแต่คิดเรื่องพวกนี้ คงจะห่วงลูกหลานว่าจะผลาญสมบัติและชื่อเสียงของเขาได้รวดเร็วแค่ไหนและจะภูมิใจหรือไม่หากทราบว่าบรรพบุรุษของพวกเขาเป็นคนเช่นนี้
กฏแห่งกรรมไม่ได้มีช่องโหว่ กฏแห่งกรรมไม่ใช่เป็นเรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ แต่กฏแห่งกรรมนี่แหละคือธรรมชาติ และไม่มีใครหนีธรรมชาติได้พ้นเพราะต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ