Saturday, March 08, 2008
:: หยดหนึ่ง ::
58 ปีที่แล้ว (พ.ศ. 2492) อัจฉริยะท่านหนึ่งได้แต่งเพลงอมตะเอาไว้ เพลงนั้นมีเนื้อร้องและท่วงทำนองอันไพเราะ ความหมายก็ลึกซึ้งและ "ตรงใจ" ราวกับว่าได้ถูกแต่งมาโดยเฉพาะสำหรับผู้หญิงท่านหนึ่ง ซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นในโลก ในเวลาสามปีถัดมา


ทั้งที่จริงแล้ว เพลงนี้คงถูกแต่งมาให้กลุ่มคนหลายคน


แต่สำหรับข้าพเจ้าแล้ว มันเหมือนกับว่าเพลงนี้ถูกแต่งมาโดยเฉพาะสำหรับคนเพียงคนเดียว อาจเป็นเพราะมัน​ "ตรง"​ เสียเหลือเกิน


ชีวิตของเธอ -- เธอคนที่เกิดเมื่อปลายปี 2495 -- เกิดมาเพื่อดำเนินการตามบทบัญญัติของเพลงอมตะเพลงนั้น


...


คนอีกสามคน กำลังจะเกิดขึ้นในอีกสามสิบปีถัดมา คนสามคนนั้นกำลังจะได้รับอานิสงส์อย่างเต็มๆ จากคุณค่าที่เพลงนั้นได้กล่าวถึงไว้


คุณค่าที่มิอาจประมาณได้


คุณค่าที่ไม่อาจพรรณาได้ด้วยคำอื่นใด นอกจากคำในเนื้อเพลงนั้น


...


"แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง 

ที่เฝ้าหวงห่วงลูกแต่หลังเมื่อยังนอนเปล

แม่เราเฝ้าโอละเห่

กล่อมลูกน้อยนอนเปลไม่ห่างหันเหไปจนไกล


แต่เล็กจนโตโอ้แม่ถนอม

แม่ผ่ายผอมย่อมเกิดแต่รักลูกปักดวงใจ

เติบโตโอ้เล็กจนใหญ่

นี่แหละหนาอะไร มิใช่ใดหนาเพราะค่าน้ำนม


ควรคิดพินิจให้ดี ค่าน้ำนมแม่นี้จะมีอะไรเหมาะสม

โอ้ว่าแม่จ๋า ลูกคิดถึงค่าน้ำนม

เลือดในอกผสมกลั่นเป็นน้ำนมให้ลูกดื่มกิน


ค่าน้ำนมครวญชวนให้ลูกฝัง

แต่เมื่อหลังเปรียบดังผืนฟ้าหนักกว่าแผ่นดิน

บวชเรียนพากเพียรจนสิ้น

หยดหน่ึงน้ำนมกิน ทดแทนไม่สิ้นพระคุณแม่เอย"


-- เพลง "ค่าน้ำนม" โดย ไพบูลย์​ บุตรขัน 2492


...


นับมาถึงวันนี้ 

- 58 ปีหลังจากที่เพลงนั้นถูกแต่งขึ้น 

- 55 ปีหลังจากที่เธอคนนั้นเกิดขึ้นในโลก

- 25 ปีหลังจากที่คนสุดท้ายในสามคน กำเนิดขึ้นในกาลถัดมา เพื่อรับ "ค่าน้ำนม" จากเธอ


เธอกำลังเผชิญกับอุปสรรคก้อนโต


อุปสรรคก้อนโต ​... หลายๆ ก้อน


แต่เธอจะผ่านมันไปได้ เธอจะสู้กับอุปสรรคเหล่านั้น และเธอจะต้องไม่มีวันยอมแพ้


ลูกๆ ของเธอทั้งสามคน ก็จะไม่ยอมให้เธอสู้อยู่คนเดียว พวกเขาจะสู้เคียงข้างเธอ ด้วยพลัง ด้วยความเข้มแข็ง ด้วยความมั่นใจ


หากใครจะถามว่า "สู้แค่ไหน? ด้วยราคาเท่าไหร่?"​ พวกเขา ยินดีตอบด้วยคำถามว่า 


"ค่าน้ำนมแม่นี้ จะมีอะไรเหมาะสม?"



This page is powered by Blogger. Isn't yours?