Saturday, June 21, 2008 |
There are many kinds of democracy:
- one man, one vote
this is the most basic form, as seen in an election. but things can get more complicated in an election which could turn it into #2 - one baht, one vote
those who have more money have more votes. Alternatively, those who can let go of more of their money win. this can be seen in AF (Academy Fantasia, a Thai reality TV show where audiences vote for their favourite singers each week. They pay for each vote.) - one tank, one vote
those who have more tanks win, as in a military coup, which is quiteinfamous in Thailand. - one decibel, one vote
the winning party may not be the majority, but they are the loudest group of people. If one can organize the most gigantic mob on the streets, one wins. (PAD could be an example?) - one bomb, one vote
as seen in modern warfare. The USA is always the winner since they have more atomic bombs than all other countries' combined.
- one publication, one vote
in academia, each paper brings fame and recognition to the authors. One who has more papers published is more respected in the field.
Sunday, June 01, 2008 |
กฏแห่งกรรมสอนว่าทำดีแล้วจะได้ดี หลายคนจึงตั้งใจทำความดีเพื่อหวังผลดีที่จะตามมา แต่กฏแห่งกรรมไม่ได้สอนว่าคนที่ทำดีจะ "ได้ดี" เมื่อไร และคนหลายคนใจร้อน จึงมองว่าตนเองทำดีมานานแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นผลดีเกิดขึ้นกับตนเสียที ซ้ำร้ายบางครั้งชีวิตกลับแย่ลง แย่ลง จึงเสื่อมศรัทธาในกฏแห่งกรรม แม้ปากยังบอกว่าเชื่ออยู่ แต่ในใจลึกๆ นั้นมีความเคลือบแคลงสงสัย ส่งผลให้การกระทำไม่ตั้งอยู่บนความดีอีกต่อไป เมื่อมีทางใดที่จะลัดได้ก็ลัด คดได้ก็คด ยักยอกได้ก็ยักยอก ความละอายต่อบาปเริ่มจางหายไป และอีกไม่นานนักความเกรงกลัวต่อบาปก็ละลายหายไปด้วยเนื่องจากยังไม่เห็นผลร้ายจากการกระทำของตน ตรงกันข้ามกลับเห็นทรัพย์สินที่เพิ่มพูนขึ้น ผู้คนนับถือมากขึ้น มีหน้ามีตาในสังคมมากขึ้น บางคนถึงกับคิดว่าเมื่อทำเช่นนี้แล้วก็ยิ่งทำให้ตนเองมีกำลังทรัพย์ในการทำบุญมากยิ่งขึ้น สามารถเอาชื่อไปประดับตรงตึกนี้ได้ เจดีย์นี้ได้ เก้าอี้ตัวนี้ได้ สะพานนี้ได้ เมื่อทำบุญมากขึ้นเช่นนี้ก็คงหักลบชดเชยกับบาปกรรมในอดีตได้เอง คงทำให้ตนเองได้ดิบได้ดี และลูกหลานสุขสบายเนื่องจากกองมรดกและชื่อเสียงที่สร้างไว้
คนเลวที่เคยดีเช่นนี้จะได้รับการยอมรับจากสังคมหรือไม่? แน่นอนว่าผู้อื่นที่รู้ความจริงคงจะไม่ชื่นชมเขาแต่อย่างใด แต่หากว่าการกระทำของเขาแนบเนียนเสียจนไม่มีใครรู้ได้ว่าเขาเป็นคนคดโกง ก็คงจะมีแต่คนชื่นชมสรรเสริญ คนผู้นั้นแม้ไม่มีเกียรติในตนเอง แต่ก็คงได้รับเกียรติจากสังคมไม่น้อย อีกทั้งฐานะทางการเงินที่ดีพอก็คงทำให้สามารถ "แสดงน้ำใจ" กับผู้อื่นได้มาก ทั้งในแง่ความช่วยเหลือโดยส่วนตัว และการทำบุญทำทานเพื่อประดับบารมี
แต่ตัวของเขาเองจะมีความสุขที่แท้จริงได้หรือ? ในเมื่อเขาและบางคนในครอบครัวก็คงจะรู้แก่ใจดีว่าชื่อเสียงและเงินทองที่หามาได้นั้นมีที่มาอย่างไร สมองของเขาต้องมัวคิดแต่ว่าจะปิดบังเรื่องนั้นเรื่องนี้อย่างไร จะกลบหลักฐานให้สนิทได้อย่างไร จะสร้างเรื่องโกหกผู้คนว่าอย่างไร จะสร้างบุญคุณและแสดงน้ำใจกับใครบ้างเพื่อตนเองจะได้รับประโยชน์และความชื่นชมสูงสุด ในวาระสุดท้ายของชีวิตซึ่งเขาเอาอะไรติดตัวไปไม่ได้คงจะต้องย้อนคิดว่าตนเองเคยทำอะไรไว้บ้าง คงจะนึกเสียดายว่าชีวิตเขาคงจะมีความสุขกว่านี้ถ้าไม่ต้องมัวแต่คิดเรื่องพวกนี้ คงจะห่วงลูกหลานว่าจะผลาญสมบัติและชื่อเสียงของเขาได้รวดเร็วแค่ไหนและจะภูมิใจหรือไม่หากทราบว่าบรรพบุรุษของพวกเขาเป็นคนเช่นนี้
กฏแห่งกรรมไม่ได้มีช่องโหว่ กฏแห่งกรรมไม่ใช่เป็นเรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ แต่กฏแห่งกรรมนี่แหละคือธรรมชาติ และไม่มีใครหนีธรรมชาติได้พ้นเพราะต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ
คนเลวที่เคยดีเช่นนี้จะได้รับการยอมรับจากสังคมหรือไม่? แน่นอนว่าผู้อื่นที่รู้ความจริงคงจะไม่ชื่นชมเขาแต่อย่างใด แต่หากว่าการกระทำของเขาแนบเนียนเสียจนไม่มีใครรู้ได้ว่าเขาเป็นคนคดโกง ก็คงจะมีแต่คนชื่นชมสรรเสริญ คนผู้นั้นแม้ไม่มีเกียรติในตนเอง แต่ก็คงได้รับเกียรติจากสังคมไม่น้อย อีกทั้งฐานะทางการเงินที่ดีพอก็คงทำให้สามารถ "แสดงน้ำใจ" กับผู้อื่นได้มาก ทั้งในแง่ความช่วยเหลือโดยส่วนตัว และการทำบุญทำทานเพื่อประดับบารมี
แต่ตัวของเขาเองจะมีความสุขที่แท้จริงได้หรือ? ในเมื่อเขาและบางคนในครอบครัวก็คงจะรู้แก่ใจดีว่าชื่อเสียงและเงินทองที่หามาได้นั้นมีที่มาอย่างไร สมองของเขาต้องมัวคิดแต่ว่าจะปิดบังเรื่องนั้นเรื่องนี้อย่างไร จะกลบหลักฐานให้สนิทได้อย่างไร จะสร้างเรื่องโกหกผู้คนว่าอย่างไร จะสร้างบุญคุณและแสดงน้ำใจกับใครบ้างเพื่อตนเองจะได้รับประโยชน์และความชื่นชมสูงสุด ในวาระสุดท้ายของชีวิตซึ่งเขาเอาอะไรติดตัวไปไม่ได้คงจะต้องย้อนคิดว่าตนเองเคยทำอะไรไว้บ้าง คงจะนึกเสียดายว่าชีวิตเขาคงจะมีความสุขกว่านี้ถ้าไม่ต้องมัวแต่คิดเรื่องพวกนี้ คงจะห่วงลูกหลานว่าจะผลาญสมบัติและชื่อเสียงของเขาได้รวดเร็วแค่ไหนและจะภูมิใจหรือไม่หากทราบว่าบรรพบุรุษของพวกเขาเป็นคนเช่นนี้
กฏแห่งกรรมไม่ได้มีช่องโหว่ กฏแห่งกรรมไม่ใช่เป็นเรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติ แต่กฏแห่งกรรมนี่แหละคือธรรมชาติ และไม่มีใครหนีธรรมชาติได้พ้นเพราะต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ