Wednesday, June 29, 2005 |
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01pol02290648&day=2005/06/29
คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจ "สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ" รมว.คมนาคม เมื่อวันที่ 28 ว่า...
"การที่ท่านบอกว่าเสนอข้อมูลความไม่ชอบมาพากล เป็นเหตุให้เสียชื่อเสียงของประเทศ ตรงนี้คือความต่างระหว่างพวกเรา ท่านพูดว่าฝ่ายค้านทำลายชื่อเสียงเพราะไปพูดว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชน มีการทุจริต แต่ผมเห็นว่าคนที่ทำลายชื่อเสียงของประเทศ คือคนทุจริต และคนละเมิดสิทธิมนุษยชน ไม่ใช่คนที่พูดความจริง"
ความเห็นของม็อค
ผมไม่รู้หรอกว่าคุณสุริยะโกงหรือไม่โกง ผมไม่รู้หรอกว่่าคุณอภิืสิทธิ์กล่าวข้อความดังกล่าวด้วยความจริงใจหรือไม่เพียงใด แต่ผมต้องขอบอกว่า ข้อความในย่อหน้าที่แล้วนั้น มัน... โคตรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรๆๆๆๆ ตรงใจผมเลยครับ
รัฐบาลทุกรัฐบาล ไม่ว่าในประเทศไหน ไม่ว่าจะมาจากพรรคไหน ไม่ว่าจะอยู่บนพื้นฐานปรัชญาทางการเมืองแบบเสรีนิยมหรือสังคมนิยม ควรจะจดจำข้อความดังกล่าวใส่กะโหลกเอาไว้เสมอ
อย่างไรก็ดี
ผมเห็นด้วยกับแนวคิดที่ว่า การวิืพากษ์วิจารณ์จำเป็นต้องมีข้อจำกัดอยู่บ้าง อย่างน้อยก็สำหรับเรื่องที่กระทบต่อความมั่นคงของชาติ ... ซึ่ง หึๆๆๆ พอพูดอย่างนี้ ไอ้พวก(ที่ชอบคิดว่าตัวเอง)รักชาติมากกว่าชาวบ้าน ก็จะออกมาบอกว่า เรื่องโน้นเรื่องนี้ มันมีผลต่อความมั่นคงของชาติทั้งสิ้น ซึ่งอันนี้ก็ต้องเถียงกันต่อไป ว่าขอบเขตของ "เรื่องที่กระทบต่อความมั่นคงของชาติ" นี้มันอยู่ตรงไหน สำหรับผมแล้ว ผมคิดว่าขอบเขตนี้ควรจะกำหนดให้แคบที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
... แล้วมันแค่ไหนล่ะ? อึ้มม... แค่นี้มั้ง >_<
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01pol02290648&day=2005/06/29
คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจ "สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ" รมว.คมนาคม เมื่อวันที่ 28 ว่า...
"การที่ท่านบอกว่าเสนอข้อมูลความไม่ชอบมาพากล เป็นเหตุให้เสียชื่อเสียงของประเทศ ตรงนี้คือความต่างระหว่างพวกเรา ท่านพูดว่าฝ่ายค้านทำลายชื่อเสียงเพราะไปพูดว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชน มีการทุจริต แต่ผมเห็นว่าคนที่ทำลายชื่อเสียงของประเทศ คือคนทุจริต และคนละเมิดสิทธิมนุษยชน ไม่ใช่คนที่พูดความจริง"
ความเห็นของม็อค
ผมไม่รู้หรอกว่าคุณสุริยะโกงหรือไม่โกง ผมไม่รู้หรอกว่่าคุณอภิืสิทธิ์กล่าวข้อความดังกล่าวด้วยความจริงใจหรือไม่เพียงใด แต่ผมต้องขอบอกว่า ข้อความในย่อหน้าที่แล้วนั้น มัน... โคตรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรๆๆๆๆ ตรงใจผมเลยครับ
รัฐบาลทุกรัฐบาล ไม่ว่าในประเทศไหน ไม่ว่าจะมาจากพรรคไหน ไม่ว่าจะอยู่บนพื้นฐานปรัชญาทางการเมืองแบบเสรีนิยมหรือสังคมนิยม ควรจะจดจำข้อความดังกล่าวใส่กะโหลกเอาไว้เสมอ
อย่างไรก็ดี
ผมเห็นด้วยกับแนวคิดที่ว่า การวิืพากษ์วิจารณ์จำเป็นต้องมีข้อจำกัดอยู่บ้าง อย่างน้อยก็สำหรับเรื่องที่กระทบต่อความมั่นคงของชาติ ... ซึ่ง หึๆๆๆ พอพูดอย่างนี้ ไอ้พวก(ที่ชอบคิดว่าตัวเอง)รักชาติมากกว่าชาวบ้าน ก็จะออกมาบอกว่า เรื่องโน้นเรื่องนี้ มันมีผลต่อความมั่นคงของชาติทั้งสิ้น ซึ่งอันนี้ก็ต้องเถียงกันต่อไป ว่าขอบเขตของ "เรื่องที่กระทบต่อความมั่นคงของชาติ" นี้มันอยู่ตรงไหน สำหรับผมแล้ว ผมคิดว่าขอบเขตนี้ควรจะกำหนดให้แคบที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
... แล้วมันแค่ไหนล่ะ? อึ้มม... แค่นี้มั้ง >_<