Sunday, November 19, 2006 |
Bangkok Tattoo
by John Burdett
http://www.amazon.com/Bangkok-Tattoo-John-Burdett/dp/1400040450
เมื่อวันอังคารที่แล้ว ผมแวะเดินเล่นที่ร้านหนังสือ Borders ก็พบกับหนังสือเล่มหนึ่ง ชื่อว่า Bangkok Tattoo
อ่านปกหลังดูก็พบว่าเป็นนิยายฆาตรกรรมซ่อนเงื่อน เหตุเกิดในกรุงเทพฯ ผู้ตายเป็นชายชาวอเมริกัน หญิงโสเภณีที่อยู่กับผู้ตายในคืนวันเกิดเหตุจึงตกเป็นผู้ต้องสงสัยอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่เรื่องมันก็ซับซ้อนขึ้นเนื่องจากตำรวจในพื้นที่เป็นลูกของเจ้าของ "สถานบริการ" ที่หญิงคนนี้ทำงานอยู่ และยิ่งไปกว่านั้น เธอยังเป็น "พนักงาน" ที่ทำรายได้ดีที่สุดในสถานบริการแห่งนั้นอีกด้วย! นายตำรวจจึงต้องทำทุกวิถีทางที่จะกลบเกลื่อนความผิดให้เธอ เขียนสำนวนคำให้การเป็นว่าเธอทำไปเพื่อป้องกันตัวเอง เพราะผู้ตายพยายามจะทำร้ายเธอ
เรื่องกลบเกลื่อนนี้คงจะแนบเนียนพอถ้าหากว่าผู้ตายไม่ใช่สายลับ CIA
แต่ผู้ตายเป็นสายลับ CIA!
CIA จึงส่งเจ้าหน้าที่มาสืบสวนเพิ่มเติม และพบช่องโหว่ในคดี นายตำรวจไทยจึงต้องหา "แผน B" อย่างชาญฉลาด (หรือเปล่า?) โดยการโยนความผิดไปให้กับผู้ก่อการร้ายในภาคใต้ของประเทศไทย!
เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป? แผนการกลบเกลื่อนจะดำเนินไปได้หรือไม่? แท้ที่จริงแล้วใครเป็นฆาตรกร? เชิญไปอ่านเอาเอง
.........
ผมอ่านจบแล้วในวันนี้ ขณะกำลังนั่งรอเครื่องซักผ้า
จึงคิดได้ว่า จะสัมภาษณ์ตัวเองสักหน่อย เกี่ยวกับความรู้สึกที่ได้รับจากหนังสือเล่มนี้
ถาม: ซื้อมากี่บาท? คุ้มเงินหรือเปล่า?
ตอบ: ราวๆ $13 คุ้มมากๆ ครับ สนุกมาก ผู้เขียนเข้าใจมุมมืดของสังคมไทยดีมาก และเขียนเสียดสี/กระแทกแดกดันสังคมได้อย่างขบขันและเจ็บปวด ภาษาที่ใช้ก็เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง อ่านแล้วรู้สึกเหมือนถูกกวนโอ๊ยอยู่ตลอดเวลา
ถาม: แนะนำให้คนอื่นอ่านไหม?
ตอบ: แนะนำให้คนไทยที่อายุเกิน 18 ปีอ่าน จะได้รู้ว่าเมืองไทยมีชื่อเสียงด้านไหนบ้าง (โสเภณีหญิง/ชาย/กระเทย คอรัปชั่้นในวงการตำรวจ/ทหาร วัดและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พุทธศาสนาแบบผิวเผิน ฯลฯ) ส่วนชาวต่างชาติไม่อยากแนะนำให้อ่าน (เพราะอายแทนประเทศไทย)
ถาม: หนังสือเล่มนี้เขียนประจานด้านมืดของประเทศไทย อ่านแล้วโกรธไหม?
ตอบ: ไม่โกรธ แต่เจ็บปวด เรื่องนี้เป็นนิยาย แต่เขียนอยู่บนพื้นฐานของชื่อเสียงที่รู้กันอยู่แล้วโดยทั่วไปของประเทศไทย คนไทยต่างหากที่สร้างชื่อเสียงเสียๆ เหล่านี้ขึ้นมา ถ้าจะโกรธก็ควรจะโกรธตัวเองมากกว่าโกรธผู้เขียน อีกอย่างหนึ่งในบทสุดท้ายผู้เขียนยังอุตส่าห์เขียนไว้อย่างน่ารักด้วยว่า "กรุงเทพฯ เป็นเมืองใหญ่ และเมืองใหญ่ทุกเมืองก็มีธุรกิจทางเพศด้วยกันทั้งนั้น ความจริงปริมาณธุรกิจนี้ในประเทศไทยต่อจำนวนประชากรยังต่ำกว่าอีกหลายประเทศด้วยซ้ำไป คนไทยส่วนใหญ่ดำเนินชีวิตตามศีลธรรมของพระพุทธศาสนา และนักท่องเที่ยวหลายคนก็สามารถสนุกกับประเทศไทยโดยไม่ต้องสัมผัสกับมุมมืดที่ว่าแต่อย่างใด ..." (แปลแบบสรุปความ ไม่ได้แปลตามตัวอักษร)
ถาม: คิดว่าเราจะช่วยกันลดชื่อเสียงเสียๆ ของประเทศไทยได้อย่างไร?
ตอบ: ผมไม่ใช่รัฐมนตรี
ถาม: สรุปแล้วใครเป็นฆาตรกร?
ตอบ: ไปอ่านเอาเอง
ถาม: แล้วผู้หญิงคนนั้นรอดหรือเปล่า?
ตอบ: ไปอ่านเอาเอง
ถาม: ถ้าผมอยากอ่าน มีคำแนะนำอะไรไหม?
ตอบ: ถ้าคิดจะอ่านโปรดทำใจให้กว้าง และเตรียมใจรับความเจ็บปวดที่เกิดจากเนื้อหาไว้ก่อน เพราะผู้เขียนกัดเจ็บมาก และที่เจ็บปวดยิ่งกว่าก็คือเมื่อเราคิดว่า "ที่เขากล่าวหาประเทศเราอย่างนี้มันจริงหรือเปล่า?" แล้วคำตอบลึกๆ ในใจของเราก็คือ "เอ้อ ... มีส่วนจริงว่ะ"
ถาม: อยากทิ้งท้ายอะไรไหม?
ตอบ: ขอย้ำอีกครั้งว่าไม่ควรแนะนำให้เพื่อนฝรั่งอ่านหนังสือเล่มนี้ เพราะเนื้อหาเป็นเรื่องน่าอายของประเทศไทย (ถึงแม้จะเป็นแค่นิยายก็ตาม) และไม่ควรไปพูดประจานหนังสือเล่มนี้เป็นการใหญ่โตด้วย เพราะจะยิ่งเป็นการโฆษณาให้เขาไปเสียอีก
by John Burdett
http://www.amazon.com/Bangkok-Tattoo-John-Burdett/dp/1400040450
เมื่อวันอังคารที่แล้ว ผมแวะเดินเล่นที่ร้านหนังสือ Borders ก็พบกับหนังสือเล่มหนึ่ง ชื่อว่า Bangkok Tattoo
อ่านปกหลังดูก็พบว่าเป็นนิยายฆาตรกรรมซ่อนเงื่อน เหตุเกิดในกรุงเทพฯ ผู้ตายเป็นชายชาวอเมริกัน หญิงโสเภณีที่อยู่กับผู้ตายในคืนวันเกิดเหตุจึงตกเป็นผู้ต้องสงสัยอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่เรื่องมันก็ซับซ้อนขึ้นเนื่องจากตำรวจในพื้นที่เป็นลูกของเจ้าของ "สถานบริการ" ที่หญิงคนนี้ทำงานอยู่ และยิ่งไปกว่านั้น เธอยังเป็น "พนักงาน" ที่ทำรายได้ดีที่สุดในสถานบริการแห่งนั้นอีกด้วย! นายตำรวจจึงต้องทำทุกวิถีทางที่จะกลบเกลื่อนความผิดให้เธอ เขียนสำนวนคำให้การเป็นว่าเธอทำไปเพื่อป้องกันตัวเอง เพราะผู้ตายพยายามจะทำร้ายเธอ
เรื่องกลบเกลื่อนนี้คงจะแนบเนียนพอถ้าหากว่าผู้ตายไม่ใช่สายลับ CIA
แต่ผู้ตายเป็นสายลับ CIA!
CIA จึงส่งเจ้าหน้าที่มาสืบสวนเพิ่มเติม และพบช่องโหว่ในคดี นายตำรวจไทยจึงต้องหา "แผน B" อย่างชาญฉลาด (หรือเปล่า?) โดยการโยนความผิดไปให้กับผู้ก่อการร้ายในภาคใต้ของประเทศไทย!
เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป? แผนการกลบเกลื่อนจะดำเนินไปได้หรือไม่? แท้ที่จริงแล้วใครเป็นฆาตรกร? เชิญไปอ่านเอาเอง
.........
ผมอ่านจบแล้วในวันนี้ ขณะกำลังนั่งรอเครื่องซักผ้า
จึงคิดได้ว่า จะสัมภาษณ์ตัวเองสักหน่อย เกี่ยวกับความรู้สึกที่ได้รับจากหนังสือเล่มนี้
ถาม: ซื้อมากี่บาท? คุ้มเงินหรือเปล่า?
ตอบ: ราวๆ $13 คุ้มมากๆ ครับ สนุกมาก ผู้เขียนเข้าใจมุมมืดของสังคมไทยดีมาก และเขียนเสียดสี/กระแทกแดกดันสังคมได้อย่างขบขันและเจ็บปวด ภาษาที่ใช้ก็เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง อ่านแล้วรู้สึกเหมือนถูกกวนโอ๊ยอยู่ตลอดเวลา
ถาม: แนะนำให้คนอื่นอ่านไหม?
ตอบ: แนะนำให้คนไทยที่อายุเกิน 18 ปีอ่าน จะได้รู้ว่าเมืองไทยมีชื่อเสียงด้านไหนบ้าง (โสเภณีหญิง/ชาย/กระเทย คอรัปชั่้นในวงการตำรวจ/ทหาร วัดและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พุทธศาสนาแบบผิวเผิน ฯลฯ) ส่วนชาวต่างชาติไม่อยากแนะนำให้อ่าน (เพราะอายแทนประเทศไทย)
ถาม: หนังสือเล่มนี้เขียนประจานด้านมืดของประเทศไทย อ่านแล้วโกรธไหม?
ตอบ: ไม่โกรธ แต่เจ็บปวด เรื่องนี้เป็นนิยาย แต่เขียนอยู่บนพื้นฐานของชื่อเสียงที่รู้กันอยู่แล้วโดยทั่วไปของประเทศไทย คนไทยต่างหากที่สร้างชื่อเสียงเสียๆ เหล่านี้ขึ้นมา ถ้าจะโกรธก็ควรจะโกรธตัวเองมากกว่าโกรธผู้เขียน อีกอย่างหนึ่งในบทสุดท้ายผู้เขียนยังอุตส่าห์เขียนไว้อย่างน่ารักด้วยว่า "กรุงเทพฯ เป็นเมืองใหญ่ และเมืองใหญ่ทุกเมืองก็มีธุรกิจทางเพศด้วยกันทั้งนั้น ความจริงปริมาณธุรกิจนี้ในประเทศไทยต่อจำนวนประชากรยังต่ำกว่าอีกหลายประเทศด้วยซ้ำไป คนไทยส่วนใหญ่ดำเนินชีวิตตามศีลธรรมของพระพุทธศาสนา และนักท่องเที่ยวหลายคนก็สามารถสนุกกับประเทศไทยโดยไม่ต้องสัมผัสกับมุมมืดที่ว่าแต่อย่างใด ..." (แปลแบบสรุปความ ไม่ได้แปลตามตัวอักษร)
ถาม: คิดว่าเราจะช่วยกันลดชื่อเสียงเสียๆ ของประเทศไทยได้อย่างไร?
ตอบ: ผมไม่ใช่รัฐมนตรี
ถาม: สรุปแล้วใครเป็นฆาตรกร?
ตอบ: ไปอ่านเอาเอง
ถาม: แล้วผู้หญิงคนนั้นรอดหรือเปล่า?
ตอบ: ไปอ่านเอาเอง
ถาม: ถ้าผมอยากอ่าน มีคำแนะนำอะไรไหม?
ตอบ: ถ้าคิดจะอ่านโปรดทำใจให้กว้าง และเตรียมใจรับความเจ็บปวดที่เกิดจากเนื้อหาไว้ก่อน เพราะผู้เขียนกัดเจ็บมาก และที่เจ็บปวดยิ่งกว่าก็คือเมื่อเราคิดว่า "ที่เขากล่าวหาประเทศเราอย่างนี้มันจริงหรือเปล่า?" แล้วคำตอบลึกๆ ในใจของเราก็คือ "เอ้อ ... มีส่วนจริงว่ะ"
ถาม: อยากทิ้งท้ายอะไรไหม?
ตอบ: ขอย้ำอีกครั้งว่าไม่ควรแนะนำให้เพื่อนฝรั่งอ่านหนังสือเล่มนี้ เพราะเนื้อหาเป็นเรื่องน่าอายของประเทศไทย (ถึงแม้จะเป็นแค่นิยายก็ตาม) และไม่ควรไปพูดประจานหนังสือเล่มนี้เป็นการใหญ่โตด้วย เพราะจะยิ่งเป็นการโฆษณาให้เขาไปเสียอีก
Comments:
<< Home
น่าน... มาตอบกันตรงนี้เหรอเนี่ยะ?
ไม่รู้เหมือนกัน ไม่เคยจับปลา เคยแต่กินปลาที่คนอื่นจับ ประมาณว่าเขาจับมา แล้วเราก็ ม.ค.ป.ด. (ม็อคคาบไป...)
Post a Comment
ไม่รู้เหมือนกัน ไม่เคยจับปลา เคยแต่กินปลาที่คนอื่นจับ ประมาณว่าเขาจับมา แล้วเราก็ ม.ค.ป.ด. (ม็อคคาบไป...)
<< Home